วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

การตรวจวิเคราะห์ HbA1C โดยเครื่อง BIO-RAD D-10


การตรวจวิเคราะห์ HbA1C
โดยเครื่อง BIO-RAD D-10

1.              วัตถุประสงค์ของการทดสอบ
        The Bio-Rad D-10™ Hemoglobin A1c ใช้ตรวจวัดระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในเลือดของมนุษย์โดยอาศัยหลักการ ion-exchange high-performance liquid chromatography (HPLC)
        โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ที่เกิดจาก การเสื่อมประสิทธิภาพ ของร่างกายในการ ใช้ กลูโคสในเลือดสำหรับให้พลังงาน ใน เบาหวานประเภทที่ 1 , ตับอ่อนไม่หลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ดังนั้น น้ำตาลในเลือดจึงไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ที่จะใช้เป็นพลังงานได้  ส่วนโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ทั้ง ตับอ่อนไม่สร้างฮอร์โมนอินซูลินที่เพียงพอ หรือร่างกาย ไม่สามารถที่ใช้อินซูลินได้  ซึ่งผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เป็นสาเหตุสำคัญของ การเจ็บป่วย และการตาย ทั้งโรคเบาหวานประเภทที่ 1 และ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ผลกระทบ เหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือด ( โรคหลอดเลือดหัวใจ , โรค หลอดเลือด และ โรคหลอดเลือดสมอง ) และ microvascular  ภาวะแทรกซ้อน ( โรคไต โรคเบาหวานโรค และ จอประสาทตา ) มีคนเป็นโรคเบาหวาน ประมาณ 7% ของประชากรทั่วโลก
ดังนั้นการรักษาโรคเบาหวาน จำเป็นต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ใกล้เคียงระดับปกติ ช่วยลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือด  การวัดระดับน้ำตาลในเลือด ขณะอดอาหาร เพียงครั้งเดียว ที่บ่งบอกถึง สภาพที่ ผ่านมาของผู้ป่วยได้ทันที ( ชั่วโมง) แต่ไม่ใช่ตัวแทนค่าน้ำตาลที่แท้จริง  การวัดระดับ ฮีโมโกลบินเอวันซี  ( HbA1c ) ทุกสอง ถึงสามเดือนได้รับการ ยอมรับว่าเป็น ตัวชี้วัดของ การควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด  รวมทั้งการดูแลและ รักษาผู้ป่วย ที่เป็นโรคเบาหวาน

2.              หลักการการวิเคราะห์
                The D-10 Hemoglobin A1c Program ใช้หลักการ  of ion-exchange high-performance liquid chromatography (HPLC) โดยตัวอย่างจะถูกเจืองจางโดยอัตโนมัติและฉีดเข้าไปใน analytical cartridgeโดยส่วยผสมของบัฟเฟอร์จะมีความแรงของประจุเพื่อใช้ในการแยกฮีโมโกลบินแต่ละตัวออกมา จากนั้นจะทำการวัดการดูดกลืนแสงของฮีโมโกลบินแต่ละชนิดโดยใช้ photometer เป็นตัวตรวจวัดที่ความยาวคลื่น 415 นาโนเมตร ในการคำนวณความเข้มข้นของฮีโมโกลบินออกมาเป็นร้อยละ จะคำนวณจากพื้นที่ใต้กราฟของฮีโมโกลบินแต่ละชนิด โดยมีสารที่ทราบความเข้มข้นของ HbA1C อยู่ 2 ระดับในการปรับค่า (Calibrator Level 1 ,Level 2 )



3.              คุณลักษณะของวิธีการทดสอบ
3.1       Precision
The precision of the D-10 Hemoglobin A1c Program was evaluated in a study based on the NCCLS EP5-T2 guideline "Evaluation of Precision Performance of Clinical Chemistry Devices" as adapted by the NGSP for use in the certification of glycohemoglobin methods. In this study, 40 runs were performed on one D-10 System over 20 working days. In each run, aliquots of normal and diabetic specimens were analyzed in duplicate. The results of the precision study are summarized in Table 1

Normal Patient
Diabetic Patient
Mean (% HbA1c)
Within Run (% CV)
Between Day (% CV)
Between Run ( % CV)
Total Precision (% CV)
5.7
0.78
0.68
0.52
1.16
9.4
0.46
0.99
0.53
1.22
Table 1. Results of Precision Study.
Linearity/Recovery











4.              ชนิดของตัวอย่าง
Whole Blood EDTA

5.              ภาชนะบรรจุและสารที่ใช้เก็บตัวอย่าง
หลอดเก็บตัวอย่างชนิดมีสารกันเลือดแข็ง EDTA โดยเก็บที่ อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นาน 7 วัน ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้อง (15-30 องศาเซลเซียส)  จะอยู่ได้นาน 3 วัน
  
6.              เครื่องมือและน้ำยาที่ใช้
6.1 เครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติ Bio-Rad D-10
6.2 น้ำยา
        6.2.1 Elution Buffer 1. Two bottles containing 2000 mL of a Bis-Tris/Phosphate buffer,
        pH 6.0. Contains <0.05% sodium azide as a preservative.
                6.2.2 Elution Buffer 2. One bottle containing 1000 mL of a Bis-Tris/Phosphate buffer,
        pH 6.7. Contains <0.05% sodium azide as a preservative.
                6.2.3 Wash/Diluent Solution. One bottle containing 1600 mL of deionized water with
        <0.05% sodium azide as a preservative.
        6.2.4 Analytical Cartridge. One cation exchange cartridge, 4.0 mm ID x 30 mm.
                6.2.5 Calibrator/Diluent Set. One set consisting of three vials of Calibrator Level 1, three
                vials of Calibrator Level 2, and one bottle of Calibrator Diluent. The calibrator vials
                contain lyophilized human red blood cell hemolysate with gentamicin, tobramycin,
        and EDTA as preservatives. Reconstituted volume is 7 mL per vial. Calibrator Diluent contains 100 mL           of deionized water with <0.05% sodium azide as a preservative.
                6.2.6 Whole Blood Primer. Four vials of lyophilized human red blood cell hemolysate with
        gentamicin, tobramycin, and EDTA as preservatives. Reconstituted volume is 1.0 mL per vial.
6.3 Sample Vials. 100 polypropylene vials with pierceable caps, 1.5 mL.
       6.4 Pipettes ที่ปรับขนาด 5 uL, 0.5 mL, 1 mL, 7 mL
       6.5 น้ำกลั่น
6.6 ถุงมือยางชนิดใช้แล้วทิ้ง

7.              วิธีการสอบเทียบ
7.1       Whole Blood Primer
เตรียมใหม่เมื่อมีการใช้คาทริทใหม่
        1. The Whole Blood Primer ควรจะคงตัวจนกระทั่งวันหมดอายุเมื่อยังไม่ได้เปิดใช้ที่อุณหภูมิ  2–8 °C.
        2. ใช้น้ำกลั่นละลาย 1 mL ตามที่ระบุข้างฉลาก
        3. ตั้งทิ้งไว้นาน 10–15 นาที ที่อุณหภูมิ  15–30 °C.
        4. เขย่าส่วนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
        5. เขียนวันที่เตรียมบนฉลาก. Whole Blood Primer ที่ผสมแล้วจะคงตัวเป็นเวลา 1 วัน ที่  อุณหภูมิ 2–8 °C.
        6. The Whole Blood Primer ต้องเปลี่ยนเมื่อ เปลี่ยนน้ำยา lot ใหม่ (ให้มาพร้อมชุดน้ำยา) 

7.2 Hemoglobin A1c Calibrators
ใช้ Hb A1C Calibrator ที่ละลายด้วย Calibrator Diluent  7 mL. หลังจากผสมให้เข้ากันและตั้งทิ้งไว้ 5-10 นาที โดยมี 2 ระดับ คือ  HbA1c Calibrator, Level 1 และ  HbA1c Calibrator, Level 2
       
เวลาที่ต้องทำการสอบเทียบ
1.             เมื่อมีการเปลี่ยนน้ำยา  Lot  ใหม่
2.             หลังจากเครื่องถูกซ่อม  หรือมีการบำรุงรักษา
3.             ผลของ  Control  ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
               
8.              ขั้นตอนการดำเนินการ
    ปฏิบัติตาม คู่มือการใช้งานเครื่อง BIO-RAD  D-10 Hemoglobin Testing System

9.              วิธีควบคุมคุณภาพ
        ใช้ BioRAD Lyphochek® Diabetes Control 2 Level ได้แก่ Low และ High

10.       สิ่งรบกวน
Interfering Substances
• Icterus, as indicated by bilirubin concentrations up to 20 mg/dL, does not interfere with the assay.
• Lipemia, as indicated by triglyceride concentrations up to 5680 mg/dL, does not interfere with the assay.
• Hemoglobin F concentrations up to 10% do not interfere with the assay.
• Labile A1c (LA1c/CHb-1) concentrations up to 4% do not interfere with the assay.
• Carbamylated hemoglobin (LA1c/CHb-2) concentrations up to 3.5% do not interfere with the assay.

11.       หลักการของวิธีการคำนวณผล
 ใช้โปรแกรมการตรวจวิเคราะห์ที่ที่อยู่ในเครื่องBIO-RAD D-10 คำนวณหาค่าพื้นที่ %HbA1C

12.       เกณฑ์อ้างอิงในคน
4.0-6.0 %                    

13.       ขอบเขตของผู้ป่วยที่รายงาน
3.8-18.5 % ตาม NGSP

14.       ค่าวิกฤต
                ไม่มี

15.       การแปลผล
ไม่มี

16.       ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย
ปฏิบัติงานตามวิธีการปฏิบัติงานการป้องกันอันตรายในห้องปฏิบัติการ (WI-MSL-00-002)
16.1 โดยสวมเสื้อกาวน์ และถุงมือทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน
16.2  ให้ถือว่าตัวอย่างตรวจเป็นตัวอย่างติดเชื้อ จึงควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง

17.       แหล่งที่มาของความแปรปรวนที่สำคัญ
1.             สิ่งส่งตรวจ
2.             กระแสไฟฟ้า
3.             สารมาตรฐาน
4.             ระบบน้ำ

18.       เอกสารอ้างอิง
                18.1 D-10™ Hemoglobin A1c Program Instruction Manual
            18.2 คู่มือการใช้งานเครื่อง BIO-RAD D-10 Hemoglobin Testing System

19.       การบันทึกผลการวิเคราะห์

บันทึกใน Work Sheet of Hb A1C 

การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)

การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)

1.              วัตถุประสงค์
เพื่อช่วยวินิจฉัย และบอกความรุนแรงของโรค  การดำเนินของโรค  ที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเมตาบอลิซึ่มและหน้าที่ของไต

2.              หลักการของวิธีการทดสอบ
2.1 การตรวจปัสสาวะทางกายภาพ (Physical examination)
                เป็นการตรวจดูลักษณะทั่ว ๆ ไปของปัสสาวะโดยดูสี  ความขุ่นด้วยตาเปล่าและการวัดความถ่วงจำเพาะ  ซึ่งเป็นการวัดดรรชนีหักเหของสารที่ละลายในน้ำ
2.2 การตรวจปัสสาวะทางเคมี (Chemical examination)
                เป็นการตรวจโดยใช้แถบน้ำยาสำเร็จรูปซึ่งเคลือบด้วยน้ำยาเคมีที่ใช้ในการตรวจหาสารต่างๆ ในปัสสาวะ  เมื่อจุ่มแถบน้ำยาให้ทำปฏิกิริยากับสารที่ต้องการตรวจในปัสสาวะจะเกิดสีขึ้นและนำไปเทียบสีกับแถบมาตรฐาน  ความเข้มของสีจะเป็นปฏิภาคโดยตรงกับปริมาณสารที่มีอยู่ในปัสสาวะ
                การตรวจ pH : ใช้คุณสมบัติการเปลี่ยนสีของสารบ่งชี้ (indicator) 2 ตัว  ที่เคลือบบนแถบทดสอบคือ Methy red และ Bromthymol blue สามารถวัด pH ได้ตั้งแต่ 5.0 9.0 และมีช่วงการเปลี่ยนแปลงจากสีส้มจนถึงสีน้ำเงิน
                การตรวจ Protein : แถบทดสอบจะเคลือบอินดิเคเตอร์ Tetrabromphenol blue และ buffer (เพื่อรักษากรดให้คงที่ ที่ pH 3.0) ถ้ามีโปรตีนสีของอินดิเคเตอร์จะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเหลืองอมเขียว หรือเขียวจนถึงน้ำเงิน
                การตรวจ Glucose : เป็นการทดสอบหากลูโคส โดยอาศัยปฏิกิริยาของเอนไซม์ glucose oxidase/peroxidase ดังปฏิกิริยาต่อไปนี้
                                                 Glucose oxidase
Glucose + O2                                                                      gluconic  acid + H2O2

Peroxidase
 
                                               
H2O2 + Chromogen                                                           oxidized  chromogen + H2O2

การตรวจ Ketone : ใช้หลักการของ Legal’s test-nitroprusside โดย Acetoacetic  acid จะทำปฏิกิริยากับ nitroferricanide ในตัวกลางที่มีฤทธิ์เป็นด่าง จะได้สีม่วงของ dye-complex เกิดขึ้น
การตรวจ Occult blood : Hemoglobin และ Myoglobin จะเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ระหว่าง peroxidase และ chromogen ทำให้เกิดสี โดยบนแถบทดสอบประกอบด้วย Cumene hidroperoxide กับ chromogen ได้แก่ o-Tolidine โดยจะเกิดสารที่มีสีตั้งแต่จุดสีเขียว, เขียวจนถึงสีน้ำเงินเข้ม
การตรวจ Bilirubin : Bilirubin จะรวมตัวกับ diazonium  salt (diazotization coupling reaction) ในภาวะที่เป็นกรดอย่างแรงเกิดเป็น bilurubin azo pigment ความเข้มข้นของสีที่เกิดขึ้น  จะขึ้นกับปริมาณความเข้มข้นของสารบิลิรูบินและสีที่เกิดจะขึ้นกับ diazonium salt
การตรวจ Urobilinogen : ใช้หลักการของ Modefied Ehrlich’s reaction โดย Urobilinogen จะทำปฏิกิริยากับ Ehrlich’s reagen ซึ่งเป็นสารประกอบสีชมพู  และความเข้มข้นของสีที่เกิดขึ้นจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณสาร Urobilinogen ในปัสสาวะ
การตรวจ Nitrite : Nitrite ในปัสสาวะจะถูกรีดิวซ์โดยแบคทีเรียได้เป็น Nitrite, Nitrite ที่เกิดขึ้นจะทำปฏิกิริยากับ nromatic amine ในตัวกลางที่เป็นกรด  ได้เป็นเกลือของ diazonium ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับ aromatic compound ให้สี azo dye
การตรวจ Specific Gravity : อาศัยหลักการที่ว่า Protron ที่ถูกปล่อยออกจาก Ionic solutes จะทำให้ปัสสาวะมีค่า pH สูงขึ้น
การตรวจ Leukocyte : อาศัยหลักการ aromatic amine ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่าง leukocyte esterase กับ diazonium salt ทำปฏิกิริยากับ indoxyl ester ให้สี azo dye
การตรวจ Ascorbic acid : อาศัยหลักการ Ascorbic acid จะทำให้สีของ Tillmann’s reagent เปลี่ยนไป

2.3 การตรวจปัสสาวะทางกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic examination)
                ปั่นปัสสาวะ 10 ml ที่ความเร็วรอบ 2000 รอบ เป็นเวลา 5 นาที  นำตะกอนที่ปั่นได้มาดูด้วยกล้องจุลทรรศน์

3.              คุณลักษณะของวิธีการทดสอบ
ไม่มี

 4.      ประเภทและชนิดของตัวอย่าง
ปัสสาวะ

5.              ประเภทของภาชนะบรรจุและสารที่ใช้
ภาชนะเก็บตัวอย่างที่สะอาดมีฝาปิด




6.              เครื่องมือและน้ำยาที่ใช้
6.1 เครื่องมือ
6.1.1 หลอดก้นแหลมขนาด 1.6x12 เซนติเมตร มีขีดบอกปริมาตร
6.1.2 Slide
6.1.3 Coverslip
6.1.4 Centrifuge ปรับความเร็วได้
6.1.5 Mixer
6.1.6 Microscope
6.1.7 Refractometer
 6.2 น้ำยาและสารมาตรฐาน (Standards)
                แถบน้ำยาสำเร็จรูป ประกอบด้วยแถบการตรวจ Urobilinogen , Glucose , Bilirubin , Ketone , pH , Blood , Specific gravity , Protein , Nitrite , Leukocyte , Ascobic acid ยี่ห้อ  Premier  ส่วนประกอบของน้ำยา
1. Urobilinogen
4-Methoxybenzenediazonium 2.9 mg.
2. Glucos
Glucose oxidase 430 U , Peroxidase 200 U , Potassium iodide 12 mg.
3. Bilirubin
Sodium nitrite 0.733 mg. , 2,4-dechlorobenzene diazonium 2.3 mg.
Sulfosalicylic acid 25 mg.
4. Ketone
Sodium nitroprusside 23.0 mg.
5. pH
Methyl red 0.05 mg. Bromothymol blue 0.5 mg.
6. Blood
Cumene Hydroperoxide 12 mg. o-Tolidine 35 mg.
7. Specific gravity
Bromothymol blue 0.5 mg. , Poly vinyl ether-ALT-maleic acid anhydrous 140.5 mg.
8. Protein
Tetrabromophenol blue 0.34 mg.
9. Nitrite
P-arsanilic acid 4.5 mg.
10. Leukocyte
Inclued Indole amino acid ester 1.3 mg.
11. Ascobic acid
2,6-dichloro indophenol sodium salt 0.8 mg.


      
7.              วิธีการสอบเทียบ
ไม่มี

8.              ขั้นตอนการดำเนินการ
8.1 การตรวจทางกายภาพ (Physical examination)
                8.1.1 ตรวจดูสี  ความขุ่นด้วยตาเปล่า
8.2 การตรวจทางเคมี (Chemical examination)
                8.2.1 จุ่มแถบน้ำยาสำเร็จรูปลงในปัสสาวะให้เปียกทั่วกันแล้วรีบยกขึ้น  ไม่ควรจุ่มแช่ไว้นาน  เพราะ
ปัสสาวะจะชะเอาน้ำยาเคมีที่เคลือบไว้หลุดออกมาได้
                8.2.2 ยกแถบน้ำยาสำเร็จรูปขึ้นในแนวนอน  โดยแตะปลายแถบน้ำยาสำเร็จรูปกับขอบภาชนะเพื่อกำจัด
ปัสสาวะส่วนเกินออก  ไม่ควรจับแถบน้ำยาสำเร็จรูปในแนวดิ่ง  เพราะจะทำให้น้ำยาที่เคลือบไว้บนแถบ
น้ำยาสำเร็จรูปที่ใช้ตรวจสารหลายอย่างอาจไหลปนเปื้อนกันได้
8.3 การตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic examination)
                8.3.1 เขย่าผสมปัสสาวะให้ตะกอนกระจาย  โดยเขย่าภาชนะที่ใส่ปัสสาวะหรือใช้แท่งแก้วหรือหลอดกาแฟ
กวนให้ตะกอนปัสสาวะกระจายดี
8.3.2 รินปัสสาวะปริมาตร 10 มิลลิลิตร  ใส่หลอดก้นแหลม  ถ้าไม่ครบ 10 มิลลิลิตร ให้ปั่น 5 มิลลิลิตร แต่
ถ้าไม่ครบ 5 มิลลิลิตร ให้ใช้ปัสสาวะ 4 หรือ 3 หรือ 2 มิลลิลิตร ตามปริมาตรที่มีอยู่และต้องหมายเหตุบอก
ด้วยว่าปั่นปัสสาวะปริมาตรเท่าใด  นอกจากนี้ปัสสาวะที่ไม่พอปั่นหรือปั่นไม่ได้เพราะขุ่นมากต้องหมาย
เหตุบอกเช่นกันว่าปัสสาวะไม่พอปั่น (Uncentrifuged urine)
8.3.3 ปั่นด้วยเครื่องปั่นความเร็ว 2000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที
8.3.4 เมื่อครบเวลา 5 นาทีแล้ว รอให้เครื่องปั่นหยุดเอง อย่ากดปุ่มเบรก  เพราะตะกอนจะหลุดจากก้นหลอด
8.3.5 เทน้ำใสทิ้ง  โดยคว่ำหลอดในแนวดิ่งแล้วหงายหลอดขึ้นทันที  เหลือน้ำใสผสมตะกอนปัสสาวะ
ปริมาตร 0.25 มิลลิลิตร
8.3.6 ผสมตะกอนให้เข้ากันดี  โดยเคาะก้นหลอดกับฝ่ามือ  หรือใช้เครื่องเขย่าสารละลาย (vortex)
8.3.7 ใช้หลอดกาแฟหยดตะกอนปัสสาวะลงบนสไลด์สะอาด 1 หยด แล้วปิดด้วย coverslip ขนาด 22x22
มม.
8.3.8 นำสไลด์ไปดูด้วยกล้องจุลทรรศน์  โดยใช้กำลังขยายต่ำ (10x) ก่อน  เมื่อจะจำแนกชนิดของตะกอน
ให้ใช้กำลังขยายสูง (40x) ต่อไป
การรายงานผล
การตรวจทางกายภาพ (Physical examination)
1.    สี (Color)
-                   Pale Yellow : สีเหลืองอ่อน
-                   Yellow :                สีเหลือง
-                   Deep Yellow : สีเหลืองเข้ม
-                   Orange : สีส้ม
-                   Dark : สีดำ
-                   Amber : สีอำพัน
-                   Smoky Brown : สีน้ำตาลขุ่นมีเลือดปน
-                   Red : สีแดง
-                   Milk : สีคล้ายนม (chyluria, pyuria)
-                   Green : สีเขียว
2.             ความขุ่น (Turbidity)
-                   Clear : ใส
-                   Slightly Turbid : ขุ่นเล็กน้อย
-                   Turbid : ขุ่น
3.             ความถ่วงจำเพาะ (Specific gravity)
รายงานทศนิยม 3 ตำแหน่ง
4.             ความเป็นกรด ด่าง (pH)
รายงานทศนิยม 1 ตำแหน่ง
5.             Protein , Sugar , Ketone , Blood (การตรวจทางเคมี)
รายงาน Trace , 1+ , 2+ , 3+ , 4+
6.             Microscopic examination
- Cell ต่าง ๆ (RBC, WBC, Epithelial cell, Parasite, Sperm)
รายงานพิสัยเฉลี่ยต่อ HPF : 0-1, 1-2, 2-3, 3-5, 5-10, 10-20, 20-30, 30-50, 50-100, >100
- Cast , Crystal : รายงานพิสัยเฉลี่ยต่อ LPF
- Amorphous , Mucous : รายงาน 1+, 2+, 3+, 4+ (ดูด้วยกำลังขยาย 400x (HPF))
- Bacteria , Yeast : รายงาน Few, Moderate, Numerous (ดูด้วยกำลังขยาย 400x (HPF))

9.              วิธีการควบคุมคุณภาพ
9.1 ตรวจสอบคุณภาพของแถบตรวจสำเร็จรูปทุกวันและบันทึกผลใน บันทึกค่าการควบคุมคุณภาพภายใน การตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะ (FM-MSL-060)
9.2 โครงการประเมินคุณภาพทางจุลทรรศนศาสตร์คลินิก โดยองค์กรภายนอก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (EQAC)

10.       สิ่งรบกวน
ไม่มี

11.       หลักการของวิธีการคำนวณผลวิเคราะห์
ไม่มี

12.       ขอบเขตค่าอ้างอิง
ปัสสาวะคนปกติ จะมีสีเหลืองอ่อน (Pale Yellow) ไปจนถึงสีเหลืองเข้ม (Deep Yellow) และมักจะใสมีความถ่วงจำเพาะ 1.003-1.030 มี pH เป็นกรดอ่อน (เฉลี่ยประมาณ 6.0) และตรวจไม่พบโปรตีน  น้ำตาล  คีโตน  เลือดในปัสสาวะด้วยวิธีทางเคมีหรือน้ำยาสำเร็จรูปที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ  โดยทั่วไป เมื่อนำตะกอนปัสสาวะของคนปกติมาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบปริมาณและชนิดของตะกอนปัสสาวะต่างๆ ดังนี้
                                เม็ดเลือดแดง                        0-2 cells/HP
                                เม็ดเลือดขาว                         0-6 cells/HP
                                Renal cell                             0-5 cells/HP
                                Transitional cell                 0-5 cells/HP
                                ผลึก                                       ไม่พบผลึกที่พบในภาวะผิดปกติ  แต่อาจจะพบผลึกที่พบได้ใน ภาวะ
ปกติ  ตั้งแต่จำนวนน้อยถึงมาก
                                คาสท์                                     พบเฉพาะ Hyaline Cast จำนวน 0-2/HP

13.       ขอบเขตของค่าของผู้ป่วยที่รายงาน
ไม่มี


14.       ค่าวิกฤต
ไม่มี

15.       การแปลผล
การตรวจทางเคมี
Glucose = Negative, Protein = Negative, Ketone = Negative, Blood = Negative

16.       ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย
16.1 ควรปฏิบัติตาม Universal Precaution
16.2 ให้ถือว่าตัวอย่างตรวจเป็นตัวอย่างติดเชื้อ จึงควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง

17.       แหล่งที่มาของความแปรปรวนที่สำคัญ
17.1                                               Ascorbic Acid > 50 mg/dl
17.2                                               Ketone bodies > 40 mg/dl

18.       เอกสารอ้างอิง
18.1 รัตนา ฤทธิ์มัติ, ปัสสาวะ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล 2531 หน้า 10-15ม 113-142
18.2 ทัศนีย์ เล็บนาค การตรวจปัสสาวะและสารน้ำจากร่างกาย คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล 2539 หน้า 33-56
18.3 Sam Frankel Stanley, Reitman and Alex C. Sonnen write; Grandwohl’s Clinical Laboratory methods and diagnosis 7th edition, Volume 2 1970, p1883
18.4 เอกสารกำกับน้ำยา Reagent strip for Urinalysis ยี่ห้อ  Cybow  (SD-BR-MSL-026)

19.       การบันทึกข้อมูล
บันทึกผลใน Work Sheet of Urine analysis (FM-MSL-013)